สวยจากภายนอกที่ปรุงแต่งได้


ดูแลผิวสวยจากภายในหรือจากภายนอกแบบไหนดีกว่ากัน ?
      วิทยาการความรู้ในด้านผิวพรรณที่สูงขึ้นนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหลากหลายมากขึ้น ในปัจจุบันเราจึงมีผลิตภัณฑ์ความงามตั้งแต่ชนิดทาบำรุงผิวภายนอกไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดรับประทานเพื่อการบำรุงผิวให้สวยจากภายในซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยจึงมีข้อสงสัยว่า ระหว่างการทาบำรุงผิวภายนอกกับการรับประทานสารอาหารเพื่อให้ผิวสวยจากภายในควรจะเลือกวิธีใดกันที่มีประสิทธิภาพกว่ากันและจะนำไปสู่การมีผิวสวยสมบูรณ์แบบจริงๆ

     การบำรุงผิวจากภายนอก
     การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากภายนอกอย่างครบถ้วนทั้ง 5 ขั้นตอนในแต่ละวันเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เริ่มตั้งแต่การล้างทำความสะอาดผิว ใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว เซรั่มแก้ไขปัญหาผิว ครีมบำรุงให้ความชุ่มชื่นไปจนถึงโลชั่นป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด ซึ่งนอกจากจะให้การดูแลผิวได้เต็มที่แล้ว เรายังสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิวและปัญหาผิวของตนเองได้ เช่น หากมีผิวมันแต่ก็มีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำบนใบหน้าก็สามารถเลือกใช้โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ และครีมบำรุงชนิดควบคุมความมันคู่กันไปกับเซรั่มเพื่อผิวขาวกระจ่างใสและโลชั่นกันแดดได้ เป็นต้น

กลไกของการบำรุงภายนอกก็คือ
     เมื่อทาผลิตภัณฑ์ลงบนผิว สารกันแดดจะสะท้อนรังสียูวีไม่ให้ทำลายผิว สารบำรุงกลุ่มไขมันจะปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้เสียความชุ่มชื่น ขณะที่มอยซ์เจอร์ไรเซอร์และสารสำคัญอื่นๆ จะผ่านผิวชั้นบนไปให้ความชุ่มชื่นและแก้ไขปัญหาผิวในบริเวณที่ทาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราต้องการการดูแลเป็นพิเศษ


     การบำรุงผิวจากภายใน
     เริ่มมีการใช้ยาปฏิชีวนะและอนุพันธุ์ของวิตามินบางตัวเพื่อดูแลปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และสิว มาหลายสิบปีแล้ว อีกทั้งความรู้
เกี่ยวกับอิทธิพลของสารอาหารที่มีอยู่ในพืชผัก ผลไม้ที่ดีต่อผิวพรรณได้นำไปสู่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงาม (BeautySupplements) เน้นสารอาหารเข้มข้นที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ยิ่งในระยะไม่กี่ปีมานี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงามของผิวพรรณได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับการรับประทานวิตามินซี วิตามินอี เพื่อการบำรุงผิวสวย ได้มีการค้นพบหาสารสกัดใหม่ๆ จากธรรมชาติที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น สารสกัด จากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า พิคโนจีนอล (Pycnogenol) สารสกัดจากผลทับทิม น้ำมันเมล็ดโบราจ เป็นต้น ยิ่งเมื่อมีการพัฒนาสูตรโดยการนำสารสกัดมารวมกับวิตามินที่ดีต่อผิวยิ่งนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ตอบโจทย์มากกว่าแค่ผิวสุขภาพดี แต่ยังดูแลปัญหาผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส หรือปัญหาผิวแห้งให้กลับนุ่มชุ่มชื่น


เปลือกสนมาริไทม์ ในประเทศฝรั่งเศส ถูกพบว่าช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ผิวได้รับอาหารและออกซิเจนอย่างเต็ม
  
ผลทับทิม หนึ่งในผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

กลไกของการบำรุงจากภายในก็คือ
     เมื่อรับประทานสารอาหารที่เป็นประโยชน์จะถูกดูดซึมและลำเลียงไปตามเส้นเลือดเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในผิวชั้นหนังแท้ ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารที่ใช้ในกระบวนการทำงานอย่างเต็มที่ ผลดีจึงเกิดขึ้นได้กับผิวทั่วทั้งร่างกาย

ดูแลผิวจากภายในหรือภายนอกแบบไหนดีกว่ากัน?

     ก่อนที่จะตอบคำถามที่หลายคนสงสัย ต้องทำความเข้าใจกับลักษณะพื้นฐานของผิวหนังเสียก่อน ผิวประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยผิวชั้นนอกสุดนั้นเรียกว่า “ผิวชั้นหนังกำพร้า” เป็นชั้นที่เรามองเห็นจากภายนอก มีความบางมากประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่มีชีวิต เซลล์ที่ตายแล้ว และเซลล์สร้างเม็ดสี การบำรุงผิวชั้นนอกต้องพึ่งพาการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากภายนอกเป็นหลัก เนื่องจากผิวชั้นนี้ไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง การลำเลียงสารอาหารที่ได้จากการรับประทานมาสู่ผิวชั้นนอกนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
     ถัดลึกลงไปภายใน ภายใต้ผิวชั้นหนังกำพร้าก็คือ “ผิวชั้นหนังแท้” ซึ่งเป็นชั้นที่หนากว่าเป็นโครงสร้างหลักของชั้นผิวหนังประกอบด้วยเซลล์ที่มีชีวิต สร้างเนื้อเยื่อ โปรตีน คอลลาเจน อิลาสติน ให้ความยืดหยุ่นและเก็บความชุ่มชื่นแก่ผิว การรับประทานสารอาหารจะส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของเซลล์ในผิวชั้นหนังแท้นี้ เพราะเป็นชั้นผิวที่มีเส้นเลือดลำเลียงสารอาหารมาหล่อเลี้ยง แต่เป็นการยากที่สารบำรุงผิวจากการทาผลิตภัณฑ์จากบริเวณภายนอกจะสามารถแทรกซึมผ่านชั้นหนังกำพร้าลงมาถึงชั้นหนังแท้ภายในได้อย่างเต็มที่จะเห็นได้ว่าผิวชั้นนอกและผิวชั้นในต้องได้รับการบำรุงด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
     เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยเทียบชั้นผิวหนังกับฟูกที่เรานอนก็ได้ ผิวชั้นหนังกำพร้าด้านบนนั้นเปรียบเหมือนผ้าปูที่นอนผืนบางซึ่งปกคลุมอยู่ภายนอก ส่วนผิวชั้นหนังแท้นั้นเปรียบได้กับฟูกที่นอนซึ่งซ่อนอยู่ภายใน หากเรามุ่งเน้นการบำรุงผิวจากภายในด้วยการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเดียว แต่ไม่ใส่ใจบำรุงผิวชั้นบน ไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด เมื่อเวลาผ่านไปผิวชั้นบนก็จะมีปัญหาแห้งกร้าน กระ ฝ้า จุดด่างดำ เปรียบเหมือนกับการที่คุณมีฟูกอย่างดีที่หนาแน่น แต่คลุมด้วยผ้าปูที่นอนซึ่งใช้งานทุกวัน ไม่เคยซักทำความสะอาด แถมยังปล่อยให้แสงแดดส่องโดนทุกวัน ผ้าย่อมเก่ายุ่ยและด่างดำในที่สุด แต่หากเรามุ่งเน้นการบำรุงผิวภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ใส่ใจการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวภายใน นานวันผิวชั้นหนังแท้ที่อยู่ภายในก็จะเสื่อมโทรม ทำให้การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินที่เปรียบเสมือนสปริงบ่งบอกความหยุ่นกระชับของผิวไม่สมบูรณ์ ชั้นผิวจึงยุบตัวและเกิดปัญหาริ้วรอยเหมือนผ้าปูที่นอนผืนสวยซึ่งปรากฏร่องยับย่นไปตามการยุบตัวของฟูกนั่นเอง
     ดังนั้น หากต้องการมีผิวสุขภาพดีสมบูรณ์แบบ คำตอบคงต้องอยู่ที่การบำรุงอย่างทั่วถึงทั้งจากภายนอกด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวครบขั้นตอน และบำรุงจากภายในด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว และที่สำคัญต้องไม่ลืมพักผ่อนและการออกกำลังกายซึ่งเป็นพื้นฐานของผิวสุขภาพดีด้วย